พิษสารเคมีกำจัดวัชพืช (Herbicide)


ประพันธ์ เชิดชูงาม, วทบ, สม, สาขาพิษวิทยาและอาชีวเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม, ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ข้อมูลสารเคมีกำจัดวัชพืชกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่ คลอโรฟีน็อกซี่อะซีเตท เช่น ทู,โฟ-ดี (2,4-D), ทู,โฟ,ไฟด์-ที (2,4,5-T), โซเดียมคลอเรท (sodium chlorate), พาราควอท (paraquat), ไดไนโตร-โอ-คลีซอล (dinitro-o-cresol), ไดไนโตรฟีนอล (dinitrophenol), ไดโนเซป (dinoseb) และเพนตะคลอโรฟีนอล (pentachlorophenol) ประโยชน์ และสาเหตุการเกิดพิษ ลักษณะอาการทางพิษวิทยา และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น.

 

สารเคมีกำจัดวัชพืชกลุ่มคลอโรฟีน็อกซี่อะซีเตท [Chlorophenoxyacetate Herbicide]


สารเคมีกำจัดวัชพืชกลุ่ม Chlorophenoxyacetate บางทีเรียกชื่อสั้น ๆ ว่า Phenoxy หรือ Chlorophenoxy สารในกลุ่มนี้ได้แก่ 2,4-D, MCPA , mecoprop (MCPP) , dichlorprop (DCPP) และ 2,4,5-T
ประโยชน์ :

สาเหตุการเกิดพิษ :

ลักษณะอาการ:
ถ้ากลืนสารพิษ:

ถ้าสารพิษถูกผิวหนัง :

ถ้าสารพิษถูกผิวหนังเป็นบริเวณกว้าง:

ถ้าหายใจเอาสารพิษเข้าสู่ร่างกายปริมาณมาก:


ถ้าสารพิษเข้าตา:

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น :

เอกสารอ้างอิง :


สารเคมีกำจัดวัชพืชโซเดียม คลอเรท [Sodium Chlorate]

ประโยชน์:

สาเหตุการเกิดพิษ:

ลักษณะอาการ:

ถ้าผู้ป่วยกลืนกินสารพิษ:

ถ้าสารพิษสัมผัสผิวหนัง:

ถ้าสารพิษเข้าตา:

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น:

เอกสารอ้างอิง :


สารเคมีกำจัดวัชพืชพาราควอท [Paraquat Herbicide]


พาราควอท เป็นสารเคมีที่ใช้ในการกำจัดวัชพืช ตามปรกติจะจำหน่ายในรูปของเหลวที่มีความเข้มข้น 20% ซึ่งจำเป็นต้องทำให้เจือจางก่อนนำไปใช้งาน ในบางประเทศพาราควอทจะจัดจำหน่ายในลักษณะของรูปเม็ด (tablet) ใช้สำหรับกำจัดวัชพืชที่ขึ้นในบริเวณสวนผลไม้ ซึ่งจะมีปริมาณของสารพาราควอทเข้มข้น 2.5% และไดควอท 2.5% และต้องนำไปผสมกับน้ำก่อนจะนำไปใช้


สาเหตุการเกิดพิษ:

ลักษณะอาการ:
ถ้ากลืนกินสารพาราควอท:


ถ้าสารพาราควอทสัมผัสผิวหนัง:


ถ้าสารพาราควอทสัมผัสถูกนัยน์ตา:

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น:


เอกสารอ้างอิง:


ไดไนโตร-โอ-คลีซอล,ไดไนโตรฟีนอล,ไดโนเซปและเพนตะคลอโรฟีนอล[Dinitro-o-cresol (DNOC), dinitrophenol, dinoseb and pentachlorophenol]


ประโยชน์:

สาเหตุการเกิดพิษ:

ลักษณะอาการ:

ถ้าสารพิษสัมผัสผิวหนัง:

ถ้าสารพิษเข้าตา:

ถ้าหายใจเอาสารพิษสู่ร่างกาย:

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น:

เอกสารอ้างอิง:


(C) sipcn@mahidol.ac.th

<<<<<<<<<<กลับด้านบน<<<<<<<<<<